เมื่อปี ค.ศ. 1975 นักวิทยาศาสตร์ ได้นำเอามัมมี่ของฟาโร และขุนนางอียิปต์
โบราณ อายุประมาณประมาณ 1600 - 1000 ปีก่อนคริสตศักราช
จำนวน 17 ร่าง ของพิพิธพัณฑ์แมนเชสเตอร์ประเทศอังกฤษ
มาศึกษาโดยการเอกซเรย์
ผลการเอกซเรย์พระศพเพื่อไขความลับให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้ศึกษา
โดยผลการวิเคราะห์บอกว่าฟาโรห์ส่วนใหญ่สวรรค์คตเมื่อยังมีพระชนม์น้อย..
กระโหลกของฟาโรห์หลายพระองค์มีขนาดแตกต่างกันมาก
บ่งว่าไม่ได้ร่วมสายพระโลหิตเดียวกัน..
แถมยังทำให้เรารู้ด้วยว่าฟาโรห์
และมเหสีหลายพระองค์ประชวรด้วยโรคไขข้ออักเสบ..
เผยความลับ...ของมัมมี่
โรคเกี่ยวกับฟันของชาวอียิปต์โบราณ...
จากผลเอกซเรย์พบว่าฟันของมัมมี่สึกกร่อนมากซึ่งคงทำให้เจ็บปวดและก่อให้เกิดโรคเหงือกอักเสบหรือโรคเหงือกเรื้อรังและยังพบมัมมี่จำนวนมากมีขากรรไกรผิดปกติ
ชาวอียิปต์นิยมกินขนมปังกันเป็นประจำ(จนโดนชาวกรีกเรียกว่า"พวกกินขนมปัง")
ปัญหาเรื่องโรคฟันอาจเกิดจากทรายที่ปลิวมาปะปนอยู่ในเนื้อขนมปังตั้งแต่ตอนเก็บเกี่ยวข้าว
และตอนเตรียมแป้งรวมทั้งทรายที่เติมลงไปเพื่อช่วยการบดในเครื่องโม่แป้ง
ทรายยังก่อปัญหาสุขภาพอื่นด้วย..จากผลวิเคราะห์เนื้อเยื่อปอดของมัมมี่โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบโรคปอดซึ่งเกิดจากการสูดเองผงทรายเข้าไปด้วย
นอกจากมัมมี่ฟาโรซึ่งเป็นกษัตริย์แล้วชาวอียิปต์โบราณยัง
คำว่า มัมมี่มาจากภาษาอาหรับว่า มูมียาหมายถึงน้ำมันดิน
พบว่าแถบผ้าลินินบางส่วนที่พันร่างมัมมี่นั้นชุบไว้ด้วยสารละลายที่เจือน้ำมันดินอยู่ด้วย
2552/10/26
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น