50เรื่อง'ที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ของกัมพูชา

1. ตอนนี้เขมรมีผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้งหมด 9 เครือข่าย
2. แบรนด์เนมที่เศรษฐีเขมรปลาบปลื้มที่สุดคือ Burberry
3. กีฬาที่ชนชั้นแรงงานชอบเล่นฆ่าเวลากันคือ วอลเล่ย์บอล
4. KFC ที่เขมร ไก่ทอดรสชาติคล้ายไทย แต่ซอสนั้นแพ้บ้านเราขาดลอย
5. ที่พนมเปญมี MK ปลอม ฟอนต์เหมือนกันเด๊ะ แต่ตัวหนังสือสีเขียวซะงั้น
6. เบเกอรี่เขมร ชิ้นใหญ่มาก กินชิ้นเดียว อิ่มข้ามวัน
7. ตอนนี้เขมรมี authorized reseller ของแอปเปิ้ลแล้วนะจ๊ะ
8. เขมรมีช่อง MTV เป็นของตัวเอง ใช้ชื่อว่า MyTV
9. เขมรมีไอติมโยเกิร์ตอารมณ์ red mango แล้ว แต่(ยัง)ไม่ฮิต
10. รถ Lexus บนท้องถนนเขมรมีมากมายเหมือนโตโยต้าบ้านเรา
11. รถระดับ Bently หรือ Hummer ก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
12. ร้านพนันบอลชื่อ Cambo Six ที่เคยมีสาขาทั่วประเทศ โดนสั่งปิดไปแล้ว
13. นักร้องเขมรที่ดังระดับตำนานคล้ายๆป้าเบิร์ดของเราชื่อว่า “เพียบสะหวัด
14. และ “เพียบสะหวัด” ก็ชอบเอาเพลงป้าเบิร์ดไปร้องเป็นภาษาเขมรอยู่บ่อยๆ
15. ตอนนี้วันรุ่นเขมรเพิ่งเต้นเพลง nobody กัน
16. เด็กๆในออฟฟิศผม เกือบทุกคนมีมือถือมากกว่าหนึ่งเครื่อง
17. คนเขมรออกเสียงตัวสะกด ส.เสือ ไม่ได้ เช่นตัว S จะอ่านว่า เอ๊ะ...
18. ส่วนตัว Sh จะอ่านเป็นเสียง ส. เช่น shopping อ่านว่า ซ้อปปิ้ง
19. เด็กเขมรรุ่นใหม่ๆไม่รู้จัก กบ-สุวนันท์
20. คนเขมรชอบมาช้อปปิ้งที่แพลตตินัมบ้านเรา
21. ส่วนที่รวยๆหน่อย ชอบเดินเซ็นทรัลชิดลม
22. เห็นเขาว่าแถวๆประตูน้ำ ถึงขั้นมีโรงแรมที่คนเขมรมาเปิดให้คนเขมรพักโดยเฉพาะ
23. เขมรเพิ่งออกกฏให้ใส่หมวกกันน๊อคเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
24. อ้อ... แล้วก็ออกกฏให้ติดกระจกมองหลังด้วยครับ สมัยก่อนเค้าถอดออกหมด
25. เขาว่ากันว่า กว่าจะได้ครอบครองใบขับขี่เขมร ใช้เวลาทำกันเป็นเดือนๆ
26. พนมเปญมีสี่แยกไฟแดงที่มีตัวนับถอยหลังเยอะกว่ากรุงเทพฯอีก
27. ตอนดึกๆ เราจะเห็นผู้หญิงแต่งชุดราตรีเต็มยศ นั่งซ้อนท้ายมอไซค์ไปงานแต่งงาน
28. อาหารฝรั่งเศสที่พนมเปญ มีอร่อยเริ่ดหลายร้านมาก ถูกกว่าเมืองไทยด้วย
29. ที่เขมรหาเป๊ปซี่ยากกว่าโค้กหลายสิบเท่า
30. แล้วน้ำอัดลมร้อยละ 99% ที่ขายทั่วไปเป็นแบบบรรจุกระป๋อง
31. ที่นี่มีคิกคาปู้ขายด้วย เขาเอามาจากสิงคโปร์
32. เวลาถามลูกน้องผมว่า วันอาทิตย์นี้ไปไหน เกือบทั้งหมดบอกว่า “ไปวัด”
33. แต่เวลาตอนเป็นภาษาอังกฤษ เค้ามักตอบว่าไป pagoda (เจดีย์)มากกว่า temple
34. ซึ่งผมก็เชื่อว่าเค้าไปกันจริงๆนะ ไม่ใช่แค่ตอบให้ดูเป็นคนดี
35. ผมยังไม่เคยเจอผีเขมรสักครั้ง แต่นายผมเคยโดนผีอำไปทีนึงที่โรงแรม
36. ที่เขมรไม่มีแผงนิตยสาร เพราะเค้าใช้วิธีหนีบหนังสือห้อยเป็นพวงให้เด็ด
37. วิธีซื้อหนังสือพิมพ์เขมรที่สะดวกที่สุดคือ ซื้อที่สี่แยกไฟแดงตอนเช้า
38. จริงๆแล้ว ผู้หญิงเขมรผิวสวยนะครับ ถึงจะคล้ำแต่มันก็สวยอะ
39. ในหนึ่งปี เขมรมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ประมาณ 20 กว่าวัน เยอะมากเนอะ
40. นี่ยังไม่รวมลาพักร้อนตามกฏหมายที่ปีนึงลาได้เกือบ 30 วัน จะเยอะไปไหนเนี่ย
41. หนังผีไทยล่าสุดที่เข้าโรงที่เขมรคือเรื่อง บอดี้ศพ 19
42. เขมรก็มีขนมไหว้พระจันทร์ แต่ไม่อร่อยเลย
43. การจัดกระเช้าของขวัญแบบเขมร เค้าจะเรียงให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ให้ของมันบังกันเอง
44. ช่วงตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้าเป็นช่วงที่คนเขมรฟังวิทยุเยอะที่สุดในรอบวัน
45. ล่าสุดผมเห็นแบงก์ 50,000 เรียล (500 บาท) พิมพ์ออกมาใช้แล้วละครับ
46. ผู้หญิงเขมรใส่ชุดนอนพริ้วๆสีสดๆลายดอกๆ เดินไปเดินมาตามท้องถนนเป็นเรื่องปกติ
47. ตอนเช้าๆ เขมรก็รถติดเหมือนกรุงเทพฯนี่แหละครับ
48. ธนาคารไทยพาณิชย์ที่เขมร เค้าเปลี่ยนชื่อเป็น Cambodia Commercial Bank (CCB)
49. ผมไม่เคยเห็นหมาข้างถนนที่เขมรเลย มันหายไปไหนกันหมดน้า~
50. อ้อ...เขมรไม่มีหมีแพนด้าละจ๊ะ!

หิมะจะตกในไทย-กรุงเทพจะจมอยู่ใต้น้ำจริงหรือ

เรื่อง พยากรณ์ นี้ พยากรณ์ใว้ตั้งแต่ 28 กันยายน 2551
แต่คิดว่า อีกไม่นานจะเกิดขึ้นแน่...ผมอ่านดูหลายๆี่ที่ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นนะแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง ปี 2012 อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเหมือนในหนัง แต่ ก็ใช่ว่ามันจะไม่เกิด / หรือ อาจร้ายแรงกว่าในหนังก็ได้นะแต่มันอาจจะเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ที่น่ากลัวอย่างบทความข้างล่างนี้ก็ได้ ลองอ่านกันดูครับ

'ดร.อาจอง'พยากรณ์หิมะตกไทยเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล

"ดร.อาจอง"เผย" หิมะตก"ในเประเทศ

ไทย ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลหรือเป็นไปไม่ได้ ชี้ห่วงคนเมืองกาญจน์

ตายยกจังหวัด เขื่อนมีสิทธิแตก ต้องลด

ปริมาณน้ำในเขื่อนด่วน พร้อมระบุอีก

30 ปีน้ำท่วมภาคกลาง ผลจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ต้องย้ายเมืองหลวง แนะพื้นที่เหมาะสมอีสานตอนใต้ เพราะสูงกว่าระดับน้ำทะเล วอนรัฐออก ก.ม.ก่อสร้างบ้าน ป้องกัน


แผ่นดินไหว 6 ริคเตอร์ ขณะที่ ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 24 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด จากกรณีน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง โดยมีบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายหลายแสนไร่ตามที่เสนอ ข่าวไปแล้วนั้น

ด้าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะโลกร้อนเปิดเผยกับ

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของประเทศที่ส่งสัญญาณมาทางพายุหมุนทอร์นาโด
ขนาดเล็ก ณ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ และพัทยา ว่าปกติแล้วพายุทอร์นาโดมีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ใน

ต่างประเทศ แต่ประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากอุณหภูมิสูงขึ้น

และขณะนี้ทั่วโลกอุณหภูมิ สูงขึ้นเกือบ 1 องศาแล้ว แม้ภาพรวมจะไม่เห็นชัดเจนนัก แต่ที่ผ่านมาก็ส่งผลให้

ประชากรในยุโรปเสียชีวิตแล้ว 20,000 คน จากความร้อนที่สูงขึ้นมีผลกระทบโดยตรง ประเทศที่อยู่ในเขตเส้น

ศูนย์สูตร มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเยอะ ที่ผ่านมามีหิมะตกครั้งแรกในเวียดนาม เคนยา และมีความเป็นไป

ได้ที่จะมีหิมะตกในภาคเหนือของประเทศไทย

ดร.อาจอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ภาวะ โลกร้อนยังส่งผลให้

ภาวะน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิด

ขณะนี้มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์ก ไหลสู่ทะเล

หมายความว่าน้ำในทะเลจะค่อย ๆ กินชายฝั่งทะเลบ้านเราไป

เรื่อย ตอนนี้เราสูญเสียแผ่นดิน 1 กม. ที่ชายทะเลบางขุนเทียน

และทั่วโลกเจอปัญหาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ สหรัฐอเมริกา ออกมาพูดแล้วว่าต่อไปเมือง

ไมอามี่ ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลจะไม่เหลือ


ทั้งนี้ กรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร เมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นมาเกินกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯ พร้อมกับ จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี พระ

นครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี ครึ่งจังหวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ และนั่นหมายความว่าพื้นที่

ผลิตข้าวในภาคกลางจะหมด ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะแหล่ง

ปลูกข้าวในภาคกลางเลี้ยงคนเกือบทั้งโลก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของแผนที่นาซาว่า

ภายใน 30 ปี น้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 เมตร


ดร.อาจอง กล่าวอีกว่า เพื่อรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงตั้งแต่เดี๋ยวนี้เพราะ

ต้อง ใช้เวลาเป็น 10 ปี ในการย้ายเมือง และภายใน 6 ปีจะเริ่มเห็นระดับน้ำทะเลสูงขึ้นใน

ระดับท่วมขังแล้ว จะสูบออกได้ยาก


นอกจากสร้างเขื่อนกั้นน้ำเหมือนกับประเทศเนเธอร์แลนด์ จะป้องกันได้ แต่ล่าสุดตนไป

ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนที่แล้ว เขาบอกว่า

จะรับไม่ไหวแล้วเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูบน้ำออกจากเขื่อนทำได้ลำบาก

สถาปนิกของประเทศเริ่มออกแบบบ้านอยู่บนแพกันแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายเมืองใหม่

อันดับแรกต้องย้ายรัฐสภาไปก่อน เพราะเป็นศูนย์กลางของเมืองใหม่ เมื่อย้ายไปหน่วย

ราชการต่าง ๆ จะตามไป จุดเหมาะสมที่จะย้ายเมืองหลวงคือ อีสานตอนใต้ ขณะที่ภาคใต้

จะเจอพายุรุนแรงมากขึ้น จะเกิดสตอม เซอจมาถึงกรุงเทพฯ อย่างที่ ดร.สมิทธ บอกไว้

ส่วนภาคตะวันตกจะมีพายุไซโคลนเข้ามา โชคดีที่ผ่านมาพายุนาร์กีสเข้าไปที่พม่ายังมา

ไม่ถึง ประเทศไทย

อดีตนักวิทยา ศาสตร์นาซา กล่าวต่อว่าก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้ว

ว่าเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ใน จ.กาญจนบุรี อยู่ใต้รอยร้าวของเปลือก

โลก แต่วิศวกรแย้งว่าได้ออกแบบการก่อสร้างเขื่อนให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเกิดแผ่น

ดินไหวรุนแรง อย่างไรก็ตาม ถ้าเอาเขื่อนมาเขย่าในความแรง 8 ริค เตอร์ เขื่อนก็

สามารถทนได้ แต่ถ้ารอยร้าวเคลื่อน ที่สลับกัน จะทำให้เขื่อนแตก และน้ำจะไหลลงมา

ท่วม จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ใต้เขื่อน และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รัฐบาลต้องให้นัก

ธรณีวิทยาไปศึกษาดู เบื้องต้นต้องรีบปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือน้อยลง แม้ว่าเขื่อน

แห่งนี้จะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของพื้นที่ภาคกลางก็ตามที จำเป็นต้องเสียสละไฟฟ้า

เพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ และต่อไปการสร้างบ้าน สร้างอาคารในแนวที่มีรอยร้าวแผ่นดินไหว

ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ กรุงเทพฯ อีสานตอนเหนือ ต้องออกฎหมายรับรอง การทนทานต่อ

แผ่นดินไหวอย่างน้อย 6 ริคเตอร์


ส่วน นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวว่า จะมีหิมะตกในประเทศไทย ว่า การที่จะมีหิมะตกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ

มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่เข้าปก คลุมในประเทศไทยช่วงนั้นว่ามีความหนาว

เย็นมากแค่ไหน โดยต้องดูเรื่องระดับความสูงของพื้นที่ในไทยด้วย ซึ่งโดยรวมคิดว่าหิมะน่า

จะเกิดตกตามภูเขา ยอดดอยในเชียงใหม่ และเชียงราย

ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รัง

สิต กล่าวว่า เรื่องที่จะเกิดหิมะตกในเมืองไทยไม่ใช่เป็นเรื่องที่ไกล

ตัวและมีโอกาสเกิดขึ้น เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์

ของประเทศไทยแม้ตั้งอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นและไม่ได้ อยู่ติดกับประเทศจีนเหมือนพื้นที่

ภาคเหนือของเวียดนาม ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การเกิดหิมะตกอุณหภูมิต้อง

ติดลบ แต่ลักษณะภูมิอากาศของไทยถ้าถึงขั้นติดลบ โอกาสที่จะเกิดหิมะตกจึงเป็นไป

ได้สูง


สำหรับในเรื่องอีก 30 ปี จะเกิดน้ำท่วม กรุงเทพฯ เรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง หากดูจาก

เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2538 ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกหนักเหมือนปี 2538 ประกอบกับ

แผ่นดินที่ทรุดตัวลงทุก ๆ ปี รวมกับน้ำเหนือที่ไหลลงมา และเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้น หาก

ปัจจัยต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี โดยพื้นที่ที่จะเกิดน้ำท่วม

ก่อน คือ จ.สมุทรปราการ แต่การท่วมจะเป็นไปในลักษณะเหมือนน้ำขึ้น-น้ำลงตามระดับ

จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาทางรับมือตั้งแต่ตอนนี้เพื่อ ให้เกิดผลกระทบ

และความเสียหายน้อยที่สุด