2552/10/24

กำแพงเมืองจีน





สิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่งของโลก คือ กำแพงเมืองจีน หรือกำแพงยักษ์ เป็นกำแพงที่ใหญ่ที่สุด และยาวที่สุดในโลก ไม่มีกำแพงที่ไหนเทียบได้
กำแพงเมืองจีน สร้างเป็นกำแพงอิบยาวประมาณ 2,650 ไมล์ ตัวกำแพงสูง 25-30 ฟุต บนกำแพงมีทางเดินกว่า 10 ฟุต มีป้อมเชิงเทิน 1 ป้อม ซึ่งตลอดแนวกำแพง มีป้อมเชิงเทินประมาณ 1,500 ป้อม เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 300-329 ใช้แรงงานจากราษฎรนับล้านคน มีคนล้มตายเพราะการก่อสร้างครั้งนี้จำนวนมาก พระเจ้าชิวั่งตี่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจีนเป็นผู้สร้างขึ้น เพื่อเป็นรั้วกั้นพรมแดนด้านเหนือของประเทศจีน ป้องกันการรุกรานของพวกตาด ศัตรูตัวสำคัญของจีนในยุคนั้น




พระเจ้าชิวั่งตี่ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจีน ปกครองประเทศจีน เมื่อ พ.ศ. 297 พระองค์เป็นนักรบที่เข้มแข็ง และมีความสามารถเก่งกล้าเกินมนุษย์ ขณะนั้นจีกได้แตกเป็นก๊กเป็นเหล่า แต่จักรพรรดิองค์นี้สามารถทรงรวมจีนให้เป็นปึกแผ่น และยังขับไล่ไทยจากน่านเจ้าให้ถอยร่นลงมายังสุวรรณภูมิจนถึงทุกวันนี้
จักรพรรดิชิวั่งตี่ ทรงทราบว่าทางภาคเหนือมีศัตรูสำคัญ ซึ่งเป็นนักรบเชื้อสายมองโกล เพราะพระองค์เห็นว่า มีทางเดียวเท่านั้นที่สกัดกั้นพวกศัตรูมิให้รุกรานได้ก็ คือ การสร้างกำแพงยักษ์ขึ้นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เรืองอำนาจ ได้รับสั่งให้เกณฑ์ราษฎรมาสร้างกำแพงยักษ์ขึ้น กั้นพรมแดนประเทศจีนกับธิเบต แม้จะสิ้นเปลืองราชทรัพย์สักเท่าใด ก็มิได้ย่นย่อท้อถอย พระองค์ได้บุกบั้นสร้างกำแพงนี้จนสำเร็จ นอกจากสร้างกำแพงยักษ์ที่สุดในโลกขึ้นแล้ว จักรพรรดิจีนองค์นี้ ยังมีรับสั่งให้สร้างวังขนาดใหญ่ที่สุดขึ้นมีห้องถึงหมื่นห้อง สำหรับพระองค์จะได้เลือกบรรทมได้ทุกห้อง ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์ใฝ่การสงครามตลอดเวลาจึงหวาดระแวง ไม่สงบ เกรงว่าจะมีศัตรูมาทำร้ายพระองค์อยู่เสมอ




พระเจ้าชิวั่งตี่ ไม่ชอบนักปราชญ์ราชบัณฑิต และชอบให้ชาวจีนคิดแต่เรื่องการรบ หนังสือขนบธรรมเนียมจีนซึ่งส่วนมากเป็นลัทธิขงจื๊อ มีรับสั่งให้เผาพินาศหมด ลัทธิขงจื๊ออันมากด้วยคติธรรม และขนบธรรมเนียมอันดีงามของจีนจึงเสื่อมสูญไปช่วงหนึ่ง แม้พระเจ้าชิวั่งตี่ จะเป็นนักรบเก่งกล้าสามารถเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์กลัวก็คือความตาย
ขณะที่พระองค์แก่ชราลง เกิดความกลัวตายขึ้นมา ทว่าพระองค์คิดว่ายังไงต้องชนะให้ได้ จึงมีรับสั่งให้อำมาตย์ข้าราชบริพารไปพบ และเมื่อเห็นว่าตนหนีความตายไม่พ้นจริงๆ พระองค์จึงรับสั่งให้สร้างที่ฝังศพใหญ่ดตและสวยงามขึ้นแห่งหนึ่งเพื่อบรรจุพระศพครั้นสวรรคต เวลาเอาพระศพบรรจุ ให้เอาปลาเน่าใส่ไว้ท้ายรถ เกรงคนจะได้กลิ่นพระศพ พอบรรจุเสร็จแล้ว ก็ให้คนนำศพอื่นอีกหลายร้อยศพไปฝั่งอยู่ที่นั่น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คนรู้ว่าซพไหนเป็ฯสพพระองค์ ต่อมามีคนเก่งชื่อ ฌ้อป๋าอ๋อง ค้นพบที่ฝังพระบรมศพของพระเจ้าชิวั่งตี่ และได้ขนเอาทรัพย์สมบัติอันมีค่าไปได้จำนวนมากที่เดียว แผ่นดินจีนสงบ มีความร่มเย็นอยู่ได้ตลอด รัชกาลของพระเจ้าชิวั่งตี่ แต่เมื่อสิ้นรัชกาลผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้แล้วก็เกิดศึกชิงอำนาจกันขึ้น บ้านเมืองระส่ำระสาย นักรบฮั่นเห็นเป็นโอกาสดี จึงยกพลขามกำแพงยักษ์เข้ามา แผ่นดินจีนวุ่นวายระส่ำระสาย อยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งนักรบผู้กล้ามาตั้งราชศ์ใหม่ เรียกว่า ราชวงศ์ฮั่น ขึ้น ปกครองแผ่นดินจีนอย่างสงบสุขมาถึง 400 ปี อักษรศาสตร์ สัทธิธรรมเนียมที่ถูกทำลายในสมัยพระเจ้าชิวั่งตี่ได้รับการฟื้นฟูใหม่ในช่วงนี้ ปัจจุบันกำแพงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการบูรณะปรับปรุงจากรัฐบาลจีน ให้ความยิ่งใหญ่ตระหง่านอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีน และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเป็นอันมาก ผู้ใดไปประเทศจีนหากไม่ได้ไปชมกำแพงเมืองจีนแล้วเท่ากับไม่ไดไปถึงประเทศจีน และกำแพงแห่งนี้ยังจัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น