2553/08/31

รู้จักเชื้อไวรัสโรตาหรือยัง?

รู้จักเชื้อไวรัสโรตา
ในบรรดาเชื้อโรคตัวก่อเหตุที่ทำให้เด็กเจ็บป่วย พบว่า มีอยู่ด้วยกันหลายจำพวก แต่มีอยู่หนึ่งชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการอุจจาระร่วงเฉียบพลันหรือลำไส้อักเสบ พบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบปี เรียกเชื้อชนิดนี้ว่า “ไวรัสโรตา”

ไวรัสโรตาคืออะไร
ไวรัสโรตา เป็นสาเหตุหลักของโรคอุจจาระร่วงในทารกและเด็กเล็กเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ง่าย เมื่อเด็กสัมผัสหยิบจับ โดนสิ่งของที่อยู่รอบตัว เช่น ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของลูกหรือพื้นผิวทั่วไป แล้วใช้มือหรือสิ่งของเข้าปากก็สามารถติดเชื้อได้ เป็นเชื้อที่พบได้ตลอดทั้งปี แต่เริ่มระบาดในช่วงฤดูหนาวซึ่งอากาศจะเย็นและแห้งเดือนตุลาคมถึงมีนาคมของทุกปี

โรคที่เกิดจากไวรัสโรตา

อุจจาระร่วง
ถ้าเกิดกับเด็กเล็ก พบว่าเด็กจะถ่ายอุจจาระบ่อยและมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ ตั้งแต่ 3 ครั้งใน 1 วัน หรือถ่ายเหลว มีมูกเลือดปนอย่างน้อย 1 ครั้ง มีไข้ ก้นแดงและอาจกินนมไม่ได้

อาการของเด็กโต(วัยเตาะแตะ) จะเริ่มจากการอาเจียน จากนั้นจะถ่ายเหลวและมีไข้ขึ้น ซึ่งอาการไข้และอาเจียนมักจะหายเองภายใน 2-3 วัน แต่บางรายมีอาการรุนแรง กินอาหารไม่ได้ เกิดภาวะขาดน้ำ มีโอกาสช็อกและเสียชีวิตได้


ลำไส้อักเสบ
เกิดจากการกินอาหารที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค เมื่อเชื้อไปที่ลำไส้ อาจทำให้ลำไส้เป็นแผล เกิดอาการท้องเสียขั้นรุนแรง และถ่ายเป็นมูกเลือด หากเชื้อมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เข้ากระแสเลือด ก็อาจทำให้เกิดโลหิตเป็นพิษ

อาการที่พบคือ เด็กจะมีไข้ตัวร้อน ถ่ายอุจจาระเหลวบ่อยครั้งและอาเจียน กินอาหารไม่ได้ ทั้งนี้อาการจะมากน้อยล้วนขึ้นอยู่กับภูมิต้านทาน ความแข็งแรงของเด็กแต่ละคน ถ้าภูมิต้านทานอ่อนแอก็ยิ่งทำให้อาการมีความรุนแรงมากขึ้น


การรักษาและป้องกัน
การติดเชื้อไวรัสโรตาในเด็ก สามารถรักษาได้ด้วยการประคับประคองอาการไม่ให้เป็นมากกว่าเดิมที่เกิดขึ้น เช่น การให้น้ำเกลือแร่แก้ไขภาวะขาดน้ำครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง กรณีที่อาการรุนแรง ไม่สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้ ควรพาลูกส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน

ดังนั้น วิธีที่ดี(ง่าย)ที่สุด คือการปกป้องลูกน้อยจากเชื้อตัวนี้ คือการหมั่นดูแลและรักษาความสะอาด สิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเด็ก เช่น อาหาร ของเล่น หรือเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงผู้เลี้ยง

ปัจจุบันมีวัคซีนไวรัสโรตา ที่สามารถสร้างภูมิต้านทาน ปกป้องอันตรายให้กับเด็ก แต่เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีราคาแพง ก็ขึ้นอยู่กับฐานะทางครอบครัว คุณแม่อาจขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำจากกุมารแพทย์ เกี่ยวกับการป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น