2552/11/10

โรคของเด็กฉลาด!!

มีโรคแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่น่าสนใจ

แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม (Asperger"s Syndrome)

โรคแปลกๆ ที่จะทำให้เกิดความผิดปกติในการเข้าสังคม ด้วยมีอาการหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากกว่าปกติ

ฟังดูเหมือนว่าอาการของโรคนี้จะไม่รุนแรง หรือออกอาการโดดเด่นเหมือนกับการเป็นออทิสติก ดาวน์ซินโดรม หรือ ไฮเปอร์ ก็ตาม เพราะโรคนี้จะเกิดขึ้นกับเด็กปกติ แถมเป็นเด็กที่ เฉลียวฉลาด สติปัญญาดี

สำหรับอาการของโรคนี้ ไม่ได้แสดงออกทางโรคร้าย รูปร่าง หน้าตา แต่จะไปออกเอาที่พฤติกรรม

อาการที่ว่านี้มีอยู่ 3 ประการ ด้านภาษา สังคม และพฤติกรรม

ด้านภาษา ที่ว่านี้ ไม่ได้อยู่ที่พูดไม่ชัดหรือติดขัดในเวลาพูดแต่จะอยู่ที่ความเข้าใจในเรื่อง ที่จะพูด โดยเฉพาะเรื่องแฝงนัย กำกวม อย่างมุกตลก คำเปรียบเปรย และคำประชดประชันต่างๆ หรือคำผวน

ด้านสังคม ก็จะออกในแนวที่ไม่ยอมมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ค่อยมองหน้าหรือสบตาเวลาพูดคุย แยกตัวอยู่คนเดียวไม่ค่อยสนใจบุคคลรอบข้าง เล่นกับเด็กคนอื่นไม่ค่อยเป็น ไม่รู้จักการทักทาย ยับยั้งชั่งใจหรือรอคอยไม่เป็น

ส่วนด้านพฤติกรรม จะเห็นได้จากการที่ชอบทำอะไรซ้ำๆ ระดับที่เรียกได้ว่า หมกมุ่น โดยเฉพาะกับเรื่องที่ซับซ้อน อย่างเช่น แผนที่โลก วงจรไฟฟ้า ยี่ห้อรถยนต์ ดนตรีคลาสสิก ไดโนเสาร์ ระบบสุริยจักรวาล เป็นต้น

ส่วนต้นเหตุของโรคแอสเพอร์เกอร์นี้ยังไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งการทำงานที่ผิดปกติทางสมอง พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

น. พ.จอม ชุมช่วย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเด็กที่เป็นโรคนี้ว่า บางคนอาจมีปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานนัก หรือมีปัญหาในการจัดลำดับเรื่องต่างๆ แม้จะมีทักษะในบางเรื่องที่อาจจะดูดีกว่าเด็กอื่นก็ตาม

เด็กเหล่านี้จะไม่ยอมเข้าสังคม ไม่พูดคุย ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ บางรายถึงขนาดยอมให้ครูตี เพราะไม่ส่งการบ้าน ที่ร้ายไปกว่านั้นเด็กกลุ่มนี้จะชอบทำอะไรก็จะทำแบบสุดโต่ง และจะมีความอ่อนไหวมาก เวลาที่เขารักใครก็จะรักจริง



สำหรับข้อแนะนำที่จะช่วยเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ซินโดรมนั้น คุณหมอให้คำแนะนำว่า

1.เล่นกับเด็กโดยเอาความสนใจของเด็กเป็นที่ตั้ง แล้วค่อยๆ ขยายความสนใจไปในมุมอื่นๆ เพื่อแบ่งความสนใจและอารมณ์ซึ่งกันและกัน

2.สนทนาด้วยคำง่ายๆ ชัดเจน ถ้ายกตัวอย่างก็ควรให้เห็นในรูปของสิ่งของ สถานการณ์จริงหรือรูปภาพ เพื่อความเข้าใจและการเรียนรู้ได้เร็ว

3.สร้างบรรยากาศสบายๆ ไม่เครียด ให้ความอบอุ่นและเป็นกันเอง

4.เพื่อให้เด็กได้คุ้นเคยกับกฎระเบียบ ควรจัดเป็นกลุ่มเล็กๆ ก่อนให้เด็กเข้าในกลุ่มใหญ่

5.การใช้คำสั่ง ต้องมีความสม่ำเสมอ คงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย

6.ควรสนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้

7.สนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรมหลากหลาย เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อหนีความเคยชินที่ซ้ำซาก เป็นหนทางในการช่วยเหลือให้เด็กอยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น